การย้ายถิ่นฐานถือเป็นปรากฎการณ์ทั่วโลก ผู้คนจากทั่วโลกใช้วิธีการที่แตกต่างกันในการย้ายถิ่นไปยังประเทศที่มีเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ที่ดีกว่า
จากรายงานของสหประชาชาติ (UN) จำนวนผู้ย้ายถิ่นฐานระหว่างประเทศอยู่ที่ 272 ล้านคนหรือมากกว่า 3.5% ของประชากรโลก ซึ่งในอัตราส่วน ¾ ของผู้ย้ายถิ่นฐานระหว่างประเทศจัดอยู่ในกลุ่มวัยทำงาน
การย้ายถิ่นเหล่านี้ได้สร้างแนวคิดใหม่เกี่ยวกับ ‘การอยู่อาศัยโดยการลงทุน’ และ ‘การเป็นพลเมืองโดยการลงทุน’ (หรือ “RCBI”) ภายใต้อุตสาหกรรมการย้ายถิ่นฐานโดยการลงทุนที่มีมูลค่ามากกว่า 3.5 พันล้านดอลลาร์ในปี 2020
อุตสาหกรรมการย้ายถิ่นฐานโดยการลงทุนกำลังได้รับความนิยมทั่วโลก โดยบางโปรแกรมที่ได้รับความนิยมมีตัวเลขเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา
สำหรับบุคคลที่สนใจในการเป็นพลเมืองหรือถิ่นที่อยู่ในต่างประเทศรวมถงการถือหนังสือเดินทางเล่มที่สองด้วยวิธีการที่รวดเร็ว คู่มือนี้จะอธิบายแนวทางของการย้ายถิ่นโดยการลงทุนที่กำลังได้รับความสนใจทั่วโลก อุตสาหกรรมการย้ายถิ่นฐานโดยการลงทุนที่เป็นกระแสนิยม พร้อมทั้งเคล็ดลับในการรักษาสิทธิที่จะได้รับถิ่นที่อยู่หรือสถานะพลเมืองในอนาคตของคุณและครอบครัวผ่านโปรแกรมการลงทุน
การย้ายถิ่นฐานโดยการลงทุนคืออะไร?
การย้ายถิ่นฐานโดยการลงทุน (หรือที่เรียกว่าโปรแกรมนักลงทุนผู้ย้ายถิ่นฐาน) เป็นโปรแกรมในหลายๆประเทศที่ระดมทุนจากผู้ย้ายถิ่นฐานชาวต่างชาติ ซึ่งออกแบบมาเพื่อให้ผู้ย้ายถิ่นฐานชาวต่างชาติมีถิ่นที่อยู่หรือได้รับสัญชาติเป็นการตอบแทนการลงทุน โดยการให้แต่ละประเทศหาเงินทุนเพื่อไปพัฒนาโครงการสาธารณะต่างๆและดึงดูดการลงทุสำหรับเงินทุนจากต่างประเทศ ในทางกลับกัน นักลงทุนต่างชาติสามารถอาศัยอยู่ในประเทศที่ได้ลงทุนได้อย่างถูกกฎหมาย และได้รับถิ่นที่อยู่หรือสัญชาติอย่างรวดเร็ว รวมไปถึงการรับผลประโยชน์มากมายจากหนังสือเดินทางเล่มที่สองที่จะได้รับผ่านการลงทุน
การทำหนังสือเดินทางเล่มที่สองได้รับสิทธิประโยชน์อย่างไร?
การเข้าถึงสาธารณสุขที่ดีกว่า: ผู้ย้ายถิ่นฐานสามารถเข้าถึงระบบสาธารณสุขที่ดีในภูมิภาคที่มีรายได้สูง อาทิ อเมริกาเหนือ, สหราชอาณาจักร, สหภาพยุโรป, หรือออสเตรเลีย แต่อย่างไรก็ตาม ยังเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาสำหรับนักลงทุนในการเลือกประเทศปลายทางที่มีระบบสาธารณะสุขที่รองรับผู้ย้ายถิ่นฐานนอกเหนือจากความคุ้มครองเพียงขั้นพื้นฐาน
โอกาสในการจ้างงานหรือโอกาสทางอาชีพที่ดีขึ้น: มีจำนวนแรงงานข้ามชาติ ผู้สมัครงาน หรือแม้กระทั่งนักลงทุนเดินทางเข้ามายังสหรัฐอเมริกา, แคนาดา, หรือสหราชอาณาจักรเพื่อหาโอกาสที่ดีกว่าในด้านการงานหรือธุรกิจในประเทศเหล่านี้เพิ่มขึ้น
การเข้าถึงมาตรฐานการศึกษาที่สูงขึ้น: บุตรของผู้สมัครจะได้รับประโยชน์ในมาตรฐานการศึกษาที่มีคุณภาพสูงในประเทศปลายทางที่จะลงทุน อันที่จริงแล้วนักเรียนมากกว่า 3 ล้านคนขอวีซ่าไปต่างประเทศเพื่อการศึกษาระดับที่สูงขึ้น นักเรียนที่ขอวีซ่าเหล่านี้ส่วนใหญ่ปรึกษากับทนายความด้านการย้ายถิ่นฐานหรือที่ปรึกษาเพื่อดำเนินการตามขั้นตอน
บรรเทาจากปัจจัยอื่นๆ (จากสภาพภูมิอากาศ เศรษฐกิจและสังคม): ผู้มีความมั่งคั่งระดับสูงมีความกังวลเกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศและความมีเสถียรภาพทางการเมือง
เสรีภาพในการเดินทาง: ประเทศส่วนใหญ่ที่เสนอโปรแกรมขอสัญชาติโดยการลงทุน ล้วนเป็นประเทศที่มีหนังสือเดินทางที่ทรงอิทธิพล นักลงทุนที่ได้รับสัญชาติจะได้รับหนังสือเดินทางเล่มที่สองซึ่งอนุญาตให้เดินทางโดยไม่ต้องขอวีซ่าได้มากกว่า 100 ประเทศ พวกเขาได้รับทางเลือกสำหรับการเดินทางไปยังประเทศปลายทางใดก็ได้และสามารถเดินทางได้ตามเวลาใดก็ได้ที่ต้องการ
สิทธิประโยชน์ทางภาษี: สภาพแวดล้อมทางธุรกิจและนโยบายทางด้านภาษีที่มั่นคงถือเป็นปัจจัยที่น่าสนใจและน่าดึงดูดให้แก่นักลงทุน
3 สิ่งที่น่าสนใจที่เกี่ยวข้องกับการย้ายถิ่นฐานโดยการลงทุน
- อุตสาหกรรมการย้ายถิ่นโดยการลงทุนทั่วโลกอาจเติบโต 100 พันล้านดอลลาร์ (USD) ภายในปี 2568 (ที่มา: IMIDaily)
- โปรแกรมย้ายถิ่นฐานโดยการลงทุนที่สามารถทำรายได้เป็นอันดับต้นๆ ได้แก่ US EB-5, UK Tier 1 และ Quebec IIP (ที่มา: IMIDaily)
- ผู้คนกว่า 750 ล้านคนทั่วโลกสนใจที่จะอพยพไปยังประเทศใหม่หากพวกเขาสามารถทำได้ (ที่มา: Gallup World Poll)
การขอสัญชาติจากการลงทุนในประเทศต่างๆ สามารถทำได้อย่างไร ?
แนวทางการย้ายถิ่นฐานโดยลงทุนในแต่ละประเทศและแต่โปรแกรมแตกต่างกันออกไป เราได้ระบุขั้นตอนต่างๆ ซึ่งนักลงทุนแต่ละคนจะต้องทำก่อนทำการยื่นคำร้องการสมัครต่างๆ ดังนี้
ขั้นตอนที่ 1: กำหนดเป้าหมายการย้ายถิ่นฐาน ความคาดหวัง และเงินทุนสำหรับการลงทุน
ขั้นตอนการย้ายถิ่นฐานโดยการลงทุนขึ้นจะแตกต่างกันโปรแกรมที่เลือกและประเภทของโปแกรมนั้นโดยขึ้นอยู่กับเป้าหมายของการย้ายถิ่นฐานของคุณ ความคาดหวัง และจำนวนเงินทุนที่มี ระยะเวลาในการดำเนินการก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณาอีกเช่นกัน บางโปรแกรมอาจใช้เวลาในการอนุมัติเพียงแค่สี่สัปดาห์, 3-6 เดือน, หรือนานกว่านั้นโดยเฉพาะในโปรแกรมที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
คุณควรเริ่มต้นด้วยการกำหนดเป้าหมายการย้ายถิ่นฐานของคุณ และหาเหตุผลว่าทำไมคุณถึงต้องการที่จะย้ายไปยังประเทศอื่น?
เหตุผลที่อาจจะเป็นไปได้ ได้แก่ การเริ่มต้นทำธุรกิจ การให้การศึกษาที่ดีขึ้นแก่บุตรหลานของคุณ การใช้บริการด้านสาธารณสุขที่ดียิ่งขึ้น หรือเหตุผลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
- คุณต้องการที่ใช้ผลประโยชน์ด้านความคล่องตัวจากการใช้หนังสือเดินทางเล่มที่ 2 ที่ให้การเดินทางโดยไม่ต้องขอวีซ่ามากกว่า 100 ประเทศ หรือไม่?
- เหตุผลอื่นๆ อาจได้แก่ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้นโยบายต่างประเทศที่ไม่พึงประสงค์ หรือเพียงแค่ต้องการมีแผนสำรอง เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณและครอบครัว
- ขั้นตอนต่อไปคือ การตั้งความคาดหวังสำหรับการย้ายถิ่นฐานของคุณ การมีความคาดหวังและจุดประสงค์ที่ชัดเจนจะช่วยให้คุณเลือกโปรแกรมวีซ่าการลงทุนที่เหมาะสมได้
นี่คือคำถามที่จะช่วยคุณในการกำหนดความคาดหวังของคุณ
- คุณต้องการที่จะเป็นผู้มีถิ่นที่อยู่ถาวรของประเทศนั้นๆ หรือไม่?
- คุณกำลังมองหาสิทธิที่อยู่อาศัยเต็มรูปแบบหรือแค่มองหาวีซ่าที่อยู่อาศัย?
- การย้ายถิ่นอย่างรวดเร็วเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคุณและครอบครัวหรือไม่?
- คุณต้องการดำเนินธุรกิจในประเทศบ้านเกิดของคุณหรือไม่ หรือคุณต้องการลงทุนทำธุรกิจในประเทศปลายทางใหม่ของคุณ?
กระบวนการสุดท้ายของขั้นตอนแรกคือการมีแหล่งที่มาของเงินทุนที่ถูกต้องตามกฎหมายสำหรับการสมัครโครงการที่อยู่อาศัยหรือการลงทุนเพื่อขอสัญชาติ ผู้สมัครต้องเข้าใจกระบวนการด้านการเงินทั้งหมดก่อนที่จะดำเนินการตามขั้นตอน โปรดติดต่อทีมงานของเราเพื่อขอคำปรึกษา
ขั้นตอนที่ 2: เปรียบเทียบโปรแกรมการย้ายถิ่นฐานโดยการลงทุนแต่ละโปรแกรมโดยละเอียด
- เริ่มต้นด้วยระบุโปรแกรมการย้ายถิ่นฐานเพื่อการลงทุนในประเทศปลายทางของคุณ คุณต้องพิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น ระยะเวลาดำเนินการ ข้อกำหนดในการลงทุน และข้อจำกัดใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับโปรแกรม (เช่น ข้อจำกัดการเดินทางหรือการย้ายถิ่นฐาน) คุณสามารถอ่านเกี่ยวกับโปรแกรมการย้ายถิ่นฐานการลงทุนที่มีอยู่ทั้งหมดจากทั่วโลกได้ ที่นี่.
- เปรียบเทียบโปรแกรมต่างๆ ตามปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับคุณและครอบครัว ซึ่งจะรวมถึงระยะเวลาดำเนินการ, โอกาสในการจ้างงาน (สำหรับคู่สมรสหรือสมาชิกในครอบครัว), การจำกัดการเดินทาง, ขั้นตอนการยื่นขอที่อยู่ถาวรและการอนุมัติ, ข้อกำหนดด้านการลงทุน, และแนวทางการต่ออายุใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับโปรแกรม
- การทำตามขั้นตอนเหล่านี้จะช่วยให้ผู้สมัครได้รับโปรแกรมที่เหมาะสำหรับครอบครัวของคุณ มีคุณสมบัติตามข้อกำหนดการลงทุน และได้รับโอกาสที่ดีที่สุดสำหรับตัวผู้สมัครเองและครอบครัว โปรดจำไว้เสมอว่าคุณควรว่าจ้างเฉพาะบริษัทกฏหมายด้านการย้ายถิ่นฐานที่ได้รับอนุญาตในขั้นตอนนี้เท่านั้น ผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้จะช่วยคุณเลือกโปรแกรมที่เหมาะสมตามความคาดหวังและข้อจำกัดการลงทุนของคุณ
ขั้นตอนที่ 3: ติดต่อและปรึกษากับทนายความด้านการย้ายถิ่นฐานเพื่อดำเนินการ
- ขั้นตอนสุดท้ายคือการติดต่อทนายความด้านการย้ายถิ่นฐานจากบริษัทที่ได้รับอนุญาตจากรัฐบาลเพื่อยื่นคำร้องใบสมัครของคุณ
- การติดต่อกับผู้เชี่ยวชาญด้านการย้ายถิ่นฐานที่มีมีประสบการณ์มีข้อดีหลายประการ ผู้เชี่ยวชาญจะช่วยคุณในการวางแผนทางการเงินล่วงหน้า การเลือกโปรแกรม และขั้นตอนการสมัคร ประสบการณ์ของพวกเขาจะสามารถให้คำแนะนำวิธีแก้ปัญหาสำหรับนักลงทุนในประเด็นที่ผู้สมัครอาจจะต้องเผชิญ
- โปรดรับทราบว่าข้อมูลที่สื่อสารกับทนายจะเป็นความลับ และสามารถเปิดเผยได้แต่โดยอาศัยอำนาจตามคำสั่งศาลเท่านั้น ซึ่งแตกต่างกับที่คำปรึกษาด้านการย้ายถิ่นฐานทั่วไป
- เฉพาะทนายความเท่านั้นที่มีสิทธิ์ตามกฎหมายที่จะถือเงินของคุณไว้ในบัญชีเอสโครว์และรักษาเงินประกันแบบมืออาชีพ
- ทนายความมีหน้าที่ตามกฎหมายในการดำเนินการเพื่อผลประโยชน์ของคุณเองและให้ข้อมูลที่จำเป็นทั้งหมดแก่คุณ ไม่ว่าคุณจะขอหรือไม่ก็ตาม
5 อันดับจุดหมายปลายทางสำหรับสำหรับการย้ายถิ่นฐานโดยการลงทุน
สหรัฐอเมริกา: สหรัฐอเมริกาเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับผู้ย้ายถิ่นฐานโดยการลงทุน เป็นที่อยู่อาศัยของผู้ย้ายถิ่นฐานกว่า 50 ล้านคน สหรัฐอเมริกาดำเนินโครงการลงทุนด้านการย้ายถิ่นฐานหลายโปรแกรมได้แก่ L1, E2, EB-5 ทั้งส่วนบุคคล และศูนย์กลางภูมิภาค
สหราชอาณาจักร: สหราชอาณาจักรจัดอยู่ในอันดับที่สี่ของประเทศที่มีจำนวนประชากรของผู้อพยพมากที่สุด สหราชอาณาจักรดำเนินโปรแกรมการย้ายถิ่นฐานโดยการลงทุนของสหราชอาณาจักรชั้น 1 (UK Tier 1 investment immigration program) ซึ่งอนุญาตให้ผู้ย้ายถิ่นฐานได้รับสัญชาติโดยทำการลงทุน 2 ล้านปอนด์หรือมากกว่านั้น อีกทางเลือกหนึ่งคือวีซ่านักลงทุนในสหราชอาณาจักร (UK Innovator) ซึ่งผู้สมัครจะต้องลงทุนอย่างน้อย 50,000 ปอนด์ ในธุรกิจที่มีแผนดำเนินธุรกิจที่เป็นนวัตกรรมใหม่
แคนาดา: แคนาดาเป็นหนึ่งในประเทศที่เป็นมิตรกับผู้ย้ายถิ่นฐานมากที่สุด ซึ่งมีจำนวนผู้ย้ายถิ่นฐานพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้สมัครสามารถได้รับถิ่นที่อยู่ถาวรได้อย่างรวดเร็ว (ประมาณ 12-18 เดือน) โดยลงทุนผ่านโปรแกรมวีซ่าสตาร์ทอัพ (Canada-SUV) .ในขณะที่โปรแกรมอื่น ๆ อาจจะใช้เวลาระหว่าง 5 ถึง 7 ปี
โปรตุเกส: โปรตุเกสได้รับความนิยมในการเป็นจุดหมายปลายทางการย้ายถิ่นฐานในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา ในขณะที่ประเทศในโซนยุโรปมีโปรแกรมโกลเด้น เรซิเดนท์ เพอร์มิท (Golden Visa) ซึ่งอนุญาตให้ผู้ย้ายถิ่นฐานเข้าซื้ออสังหาริมทรัพย์หรือลงทุนในโครงการต่างๆ เพื่อรับสถานะผู้พำนักในประเทศ แต่สำหรับผู้ประกอบการ โปตุเกสมีโปรแกรมวีซ่าสตาร์ทอัพ (Portugal Startup) ซึ่งต้องมีการเริ่มต้นหรือการลงทุนของผู้ประกอบการในศูนย์บ่มเพาะในมูลค่า 175,000 ยูโร
นิวซีแลนด์: นิวซีแลนด์เป็นจุดหมายปลายทางในอุดมคติสำหรับผู้ย้ายถิ่นฐานที่ต้องการระบบการศึกษาคุณภาพสูงและเครือข่ายการดูแลสุขภาพที่มั่นคง ประเทศนี้เสนอวีซ่าเพื่อการลงทุน 2 แบบ ได้แก่ วีซ่านักลงทุนนิวซีแลนด์ 1 และวีซ่านักลงทุนนิวซีแลนด์ 2
หนังสือเดินทางเล่มที่สองเล่มไหนที่ได้รับความนิยมจากนักลงทุนมากที่สุด
หนังสือเดินทางยุโรป, แคริบเบียน; และแปซิฟิคได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา เนื่องจากผลประโยชน์ของการถือหนังสือเดินทางที่สองที่ทรงอิทธิพล ตั้งแต่มีระบบภาษีที่น่าสนใจไปจนถึงการเดินทางโดยไม่ต้องขอวีซ่า หรือสิทธิในการตั้งถิ่นฐานในประเทศในกลุ่มเชงเก้นและทั่วโลก ซึ่งการขอสัญชาติโดยการลงทุนเพียงครั้งเดียว ก็สามารถทำให้ผู้สมัครมีสิทธิได้รับและถือสัญชาติที่สองตลอดชีวิต อีกทั้งยังส่งสัญชาติรุ่นต่อรุ่นได้อีกด้วย สำหรับโปรแกรมย้ายถิ่นฐานโดยการลงทุนของแคริบเบียนและวานูอาตู นักลงทุนจะมีทางเลือกในการบริจาคให้กับกองทุนเพื่อการพัฒนาแห่งชาติ (National Development Fund (NDF)) หรือลงทุนในด้านอสังหาริมทรัพย์ หรือในบางเขตเฉพาะเจาะจง โปรแกรมส่วนใหญ่ไม่บังคับให้มีถิ่นที่อยู่ และไม่จำเป็นต้องมีความสามารถทางภาษาหรือทักษะทางวิชาชีพ
เกรเนดา: โปรแกรมการถือสัญชาติโดยการลงทุนของเกรเนดา (Grenada Citizenship-by-investment program) ให้ทางเลือกแก่นักลงทุน 2 ทางเลือกคือ การบริจาคให้กับกองทุนเพื่อการพัฒนาแห่งชาติ เริ่มต้นที่ 150,000 ดอลลาร์สหรัฐสำหรับผู้สมัครคนเดียว หรือ 200,000 ดอลลาร์สหรัฐสำหรับผู้สมัครและผู้ติดตามอีก 3 คน (รวมเป็น 4 คน) หรือการลงทุนในโปรแกรมที่ได้รับความนิยมมากที่สุด โดยการลงทุนโดยร่วมเป็นเจ้าของโรงแรมระดับ 5 ดาว Six Senses La Sages Grenada ในราคาเริ่มต้นที่ 220,000 ดอลลาร์สหรัฐ ระยะเวลาดำเนินการอยู่ระหว่าง 4-6 เดือน ผู้ถือหนังสือเดินทางของเกรเนดาสามารถเดินทางโดยไม่ต้องขอวีซ่าไปยังกว่า 140 ประเทศ รวมทั้งประเทศจีน และสามารถยื่นขอวีซ่าสนธิสัญญา E-2 ของสหรัฐอเมริกาได้
เครือรัฐโดมินิกา: โปรแกรมการขอสัญชาติโดยการลงทุนของโดมินิกา (The Dominica Citizenship-by-investment program) สามารถได้สัญชาติโดยการบริจาคให้กับรัฐบาลด้วยเงินมูลค่าขั้นต่ำ 100,000 ดอลลาร์สหรัฐสำหรับผู้สมัครคนเดียว 175,000 ดอลลาร์สหรัฐสำหรับผู้สมัครพร้อมคู่สมรส หรือ 200,000 ดอลลาร์สหรัฐสำหรับผู้สมัครและผู้ติดตามอีก 3 คน (รวมเป็น 4 คน) นักลงทุนยังสามารถเลือกซื้ออสังหาริมทรัพย์โดยตรงผ่านโครงการที่ได้รับอนุญาตซึ่งมีมูลค่าขั้นต่ำ 200,000 ดอลลาร์สหรัฐ เพื่อรับหนังสือเดินทางของโดมินิกา การขอสัญชาติโดมินิกา มีระยะเวลาดำเนินการอยู่ระหว่าง 4-8 เดือน ผู้ถือหนังสือเดินทางโดมินิกาสามารถเดินทางโดยไม่ต้องขอวีซ่าไปยังกว่า 140 ประเทศ
แอนติกาและบาร์บูดา: โปรแกรมลงทุนเพื่อให้ได้รับสัญชาติแอนติกาและบาร์บูดา (The Antigua & Barbuda Citizenship-by-investment program) ให้ทางเลือกแก่ผู้ที่สนใจในการขอหนังสือเดินทางประเทศนี้ ดังต่อไปนี้: การบริจาคให้กับกองทุนเพื่อการพัฒนาแห่งชาติ (NDF) อย่างน้อย 100,000 ดอลลาร์สหรัฐสำหรับครอบครัวสี่คน หรือ 125,000 ดอลลาร์สหรัฐสำหรับครอบครัว 5 คนขึ้นไป ส่วนตัวเลือกการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ นักลงทุนจำเป็นต้องลงทุนขั้นต่ำ 200,000 เหรียญสหรัฐในการร่วมลงทุน (Joint Investment) หรือ 400,000 เหรียญสหรัฐในฐานะนักลงทุนรายเดียวในโครงการที่รัฐบาลอนุมัติ และต้องคงการลงทุนไว้เป็นระยะเวลา 5 ปี หนังสือเดินทางของแอนติกาและบาร์บูดาอนุญาตให้เดินทางโดยไม่ต้องขอวีซ่าไปยังประเทศต่างๆ กว่า 165 ประเทศ การขอสัญชาติแอนติกาและบาร์บูดามีระยะเวลาดำเนินการระหว่าง 3-6 เดือน
วานูอาตู: โปแกรมการถือสัญชาติวานูอาตูโดยการลงทุนเปิดดำเนินมาอย่างยาวนานซึ่งสามารถดึงดูดนักลงทุนต่างชาติมาเป็นเวลาหลายทศวรรษ นักลงทุนสามารถลงทุนผ่านการบริจาคของรัฐบาลด้วยเงินขั้นต่ำ 130,000 ดอลลาร์สหรัฐสำหรับผู้สมัครคนเดียว หรือ 180,000 ดอลลาร์สหรัฐสำหรับผู้สมัครที่มีผู้ติดตามสูงสุด 3 คน (รวมเป็น 4) และหากมีผู้ติดตามมากกว่า 3 คน จะต้องเพิ่มเงินคนละ 25,000 เหรียญสหรัฐ การขอสัญชาติวานูอาตูมีระยะเวลาดำเนินการที่รวดเร็วเป็นระยะเวลา 2 เดือน
ไซปรัส: โปรแกรมการขอสัญชาติไซปรัสโดยการลงทุน (The Cyprus Citizenship by Investment Program) เปิดโอกาสให้ได้เป็นพลเมืองของสหภาพยุโรปและตั้งรกรากในประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปประเทศใดก็ได้ โปรแกรมนี้ประกอบด้วยการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์หนึ่งแห่งหรือหลายแห่งอย่างน้อย 2 ล้านยูโร รวมทั้งบริจาคเงิน 150,000 ยูโรเข้ากองทุนเพื่อการลงทุนของรัฐ การขอสัญชาติไซปรัสมีระยะเวลาดำเนินการประมาณ 12 เดือน
บทสรุป
หลังจากอ่านคู่มือนี้เสร็จแล้ว คุณจะเข้าใจมากขึ้นว่าการถือหนังสือเดินทางเล่มที่สองผ่านการลงทุนคืออะไร ทำไมถึงควรถือหนังสือเดินทางเล่มที่สอง และการถือหนังสือเดินทางที่สองสามารถทำได้อย่างไร การย้ายถิ่นฐานทั้งหมดจะต้องใช้ทั้งเวลา, ทรัพยากร, และยังต้องคำนึงถึงระยะเวลาที่ต่อออกไป คนส่วนใหญ่อาจพบว่าเป็นเรื่องยากที่จะผ่านขั้นตอนการดำเนินการทั้งหมดซึ่งนั่นเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมเราถึงควรติดต่อกับทนายความด้านการย้ายถิ่นฐานมืออาชีพที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัฐบาลซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสให้คุณดำเนินการตามกระบวนการสำเร็จและอนุมัติได้สำเร็จ อีกทั้งยังปกป้องคุณจากการฉ้อโกงในด้านการย้ายถิ่นฐานทุกประเภท
คุณพร้อมที่จะทำตามขั้นตอนต่อไปเพื่อรักษาอนาคตของคุณแล้วหรือยัง? หากคุณมีคำถามใด ๆ เกี่ยวกับการย้ายถิ่นฐานหรือต้องการให้แนะนำโปรแกรมการลงทุนที่ดีที่สุดสำหรับคุณ คุณสามารถแบ่งปันคำถามหรือข้อสงสัยของคุณในกล่องข้อความด้านล่างนี้